Vitamin C
วิตามินซี คืออะไร?
วิตามินซี (Vitamin C) หรือ กรดแอสคอร์บิก เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และละลายได้ในน้ำ ซึ่งร่างกายของคนเรานั้นไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องรับจากภายนอก ด้วยอาหารที่รับประทานอย่างเช่น ผักและผลไม้ นอกจากนี้แล้วยังสามารถรับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายด้วย วิตามินซีจากอาหารเสริมได้เช่นกัน
วิตามินซี (Vitamin C) หรือ กรดแอสคอร์บิก เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และละลายได้ในน้ำ ซึ่งร่างกายของคนเรานั้นไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องรับจากภายนอก ด้วยอาหารที่รับประทานอย่างเช่น ผักและผลไม้ นอกจากนี้แล้วยังสามารถรับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายด้วย วิตามินซีจากอาหารเสริมได้เช่นกัน
ปัจจุบันมีสาวๆ ที่รักสวยรักงาม หลายๆ คนนิยมหันมารับประทานวิตามินซี หรืออาหารเสริมอื่นๆ มากขึ้น เพื่อความสวยความงาม บางคนถึงขนาดลงทุนฉีดวิตามินก็มีเพราะอยากมีผิวสวยใส ถึงแม้วิตามินซีจะมีอยู่ผักผลไม้หลายชนิดก็ตามแต่สำหรับคนที่ไม่ชอบรับทานผักผลไม้บางชนิดซึ่งมีวิตามินซีสูงจึงหันมากินวิตามินซีที่มีขายอยู่ทั่วไป จนอาจจะทำให้มองข้ามความปลอดภัยจากการรับประทานวิตามินซีมากเกินไป วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของวิตามินซี และ โทษของวิตามินซี

ประโยชน์ของวิตามินซี
- มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อของผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเลือด ซึ่งวิตามินซีนั้นจะช่วยให้อวัยวะเหล่านี้ไม่เปราะ ยืดหยุ่น และแข็งแรง
- ช่วยรักษาแผลเป็น และแผลต่างๆให้หายเร็วขึ้น เช่น แผลสด แผลไฟไม้
- สามารถช่วยชลอความเสื่อมของร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นตัวสร้างคอลลาเจน
- มีสารต่อต้านโรคภูมิแพ้ สามารถบรรเทาอาการหอบหืดให้ดีขึ้นได้ บรรเทาอาการแพ้
- หากทานวิตามินซีร่วมกับ กรดแพนโทเธนิค (Pantothenic Acid) จะช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนได้
- ช่วยป้องกันและรักษา เลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด หรือแม้กระทั่งสามารถป้องกันหวัดได้
- ลดการอักเสบจากการติดเชื้อ
- หากรับประทานวิตามินซีร่วมกับวิตามินอี จะช่วยลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังเส้นเลือดได้
- ป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ
- มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกายไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อของผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเลือด ซึ่งวิตามินซีนั้นจะช่วยให้อวัยวะเหล่านี้ไม่เปราะ ยืดหยุ่น และแข็งแรง
- ช่วยรักษาแผลเป็น และแผลต่างๆให้หายเร็วขึ้น เช่น แผลสด แผลไฟไม้
- สามารถช่วยชลอความเสื่อมของร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นตัวสร้างคอลลาเจน
- มีสารต่อต้านโรคภูมิแพ้ สามารถบรรเทาอาการหอบหืดให้ดีขึ้นได้ บรรเทาอาการแพ้
- หากทานวิตามินซีร่วมกับ กรดแพนโทเธนิค (Pantothenic Acid) จะช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนได้
- ช่วยป้องกันและรักษา เลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด หรือแม้กระทั่งสามารถป้องกันหวัดได้
- ลดการอักเสบจากการติดเชื้อ
- หากรับประทานวิตามินซีร่วมกับวิตามินอี จะช่วยลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังเส้นเลือดได้
- ป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ
โทษของวิตามินซี
- ถึงแม้วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถเก็บกักไว้ใช้งานได้และหากได้รับวิตามินซีมากเกินไปก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะก็ตาม แต่หากรับประทานวิตามินซีจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน ก็อาจจะทำให้มีอาการท้องเสีย กระเพาะอาหารระคายเคืองได้- หากร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณมากจนเกินไป อาจนำไปสู่โรคเกาต์ได้ เนื่องจากวิตามินซีทำหน้าที่เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการดูดซึมธาตุเหล็กตามข้อกระดูก
- มีอัตราความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไตมากขึ้น
ทานวิตามินซีเสริมดีไหม?
โดยปกติคนอายุ 15 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินซี 60-90 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนเด็กต้องการวิตามินซี 30-50 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ก็สามารถทานเพิ่มได้ถึงราว ๆ 100-200 มิลลิกรัมต่อวัน
แต่ในบางคนอาจจำเป็นต้องรับอาหารเสริมวิตามินซีเพิ่มมากหน่อย คือตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมขึ้นไป อย่างเช่น คนที่เป็นหวัดบ่อย ๆ, คนที่มีอาการเลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด แพทย์จะให้ทานวิตามินซีเสริม รวมทั้งผู้ที่สูบบุหรี่ก็จำเป็นต้องทาน เพราะบุหรี่จะไปลดปริมาณวิตามินซีในร่างกาย เช่นเดียวกับหญิงตั้งครรภ์ คนที่เตรียมตัวผ่าตัด หรือเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด ก็ควรได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากขึ้น
ผลวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิตามินซี
นักวิทยาศาสตร์ทำการค้นคว้าและพบว่า วิตามินซีช่วยป้องกันไม่ให้คอลลาเจนที่มีความอ่อนแอ และไวต่อความเสียหาย อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบโครงสร้างของคอลลาเจนในผิวให้มีสสุขภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา วิตามินซี กินตอนไหน ก็ตาม จะยังสามรารถช่วยในการรักษาบาดแผล การศึกษาพบว่า เมื่อให้ผู้ป่วยที่บาดเจ็บการการเผาไหม้ทานวิตามินซี ในปริมาณที่สูง จะสามารถช่วยซึมผ่านเส้นเลือดฝอยนำเลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงในบริเวณที่ถูกเผาไหม้ และยังช่วยขับของเสียจากผิวบริเวณนั้นออกมาอีกด้วย
ในการศึกษาว่าวิตามินซี กินตอนไหนถึงจะดีพบว่า การทานวิตามินซีปริมาณ 2000 มิลลิกรัม พบว่า วิตามินซี กินตอนไหน ก็ได้ในหนึ่งวันจะช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการถูกแดดเผามากขึ้นถึง 20 % และในระยะเวลา 8 วัน หลังการทานวิตามินซี โอกาสการเกิดผิวอักเสย และเสียหายจากการถูกแดดเผาจะลดน้อยลง
การทานวิตามินซีอย่างถูกต้อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
จากข้อมูลในเบื้องต้นน่าจะทำให้หลายๆคนทราบถึงประสิทธิภาพของวิตามินซีกันไปบ้างแล้ว ซึ่งวคำถามที่ว่า วิตามินซี กินตอนไหน ถึงจะมีประสิทธิภาพดีที่สุดนั้น ในความเป็นจริงแล้ว วิตามินซีสามารถที่จะทานตอนไหนก็ได้ แต่ควรทานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อีกทั้งยังควรเลือกวิตามินซี ที่มีปริมาณมากเพียงพอในการบำรุงผิวพรรณ นั้นก็คืออย่างน้อยวันละ 1000 - 2000 มิลลิกรัม ขึ้นไป นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทวิตามินซีวางจำหน่ายให้เลือกสรรในท้องตลาดอยู่เป็นจำนวนมากทีเดียว แต่อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณมิลลิกรัมสูงๆ และควรเป็นตามินซีจากธรรมชาติ เพื่อให้ประสิทธิภาพของ วิตามินบำรุงผิว ดีที่สุด
จากข้อมูลในเบื้องต้นน่าจะทำให้หลายๆคนทราบถึงประสิทธิภาพของวิตามินซีกันไปบ้างแล้ว ซึ่งวคำถามที่ว่า วิตามินซี กินตอนไหน ถึงจะมีประสิทธิภาพดีที่สุดนั้น ในความเป็นจริงแล้ว วิตามินซีสามารถที่จะทานตอนไหนก็ได้ แต่ควรทานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อีกทั้งยังควรเลือกวิตามินซี ที่มีปริมาณมากเพียงพอในการบำรุงผิวพรรณ นั้นก็คืออย่างน้อยวันละ 1000 - 2000 มิลลิกรัม ขึ้นไป นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมประเภทวิตามินซีวางจำหน่ายให้เลือกสรรในท้องตลาดอยู่เป็นจำนวนมากทีเดียว แต่อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณมิลลิกรัมสูงๆ และควรเป็นตามินซีจากธรรมชาติ เพื่อให้ประสิทธิภาพของ วิตามินบำรุงผิว ดีที่สุด
เรียบเรียง นายเหมันต์ แช่มสอาด
ที่มา
http://www.thaibodycare.com/benefits-of-vitamin-c.html
https://www.ovolva.com/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99-%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94/a5.html
http://frynn.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5/
http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5/
http://health.kapook.com/view110140.html
กินอยู่ทุกวันไม่รู้ว่าจะมีโทษด้วย ว่าอยู่ช่วงหลังๆปวดเข่าหมอบอกไม่ๆด้เป็นเกาต์แค่อ้วนเฉยๆ
ตอบลบแหม่ รู้สึกว่าช่วงนี้เจ้าของบล็อคจะสนใจวิตามินเป็นพิเศษนะคะ ชอบการเรียบเรียงบทความค่ะ เพราะอ่านแล้วเพลินไม่น่าเบื่อค่ะ
ตอบลบจะมาอ่านเรื่อยๆนะคะ :)